วันจันทร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2556

‘หนูไม่รู้’แบนละครเหนือเมฆ เมื่อ 7 ม.ค.56



"ปู" ปรี๊ดถูกซักเสียงวิจารณ์รัฐบาลสั่งแบนเหนือเมฆ 2 ปัดไม่รู้เรื่อง "กสท." ยังไม่ชี้ละครขัด ม.37 หรือไม่ อ้างเรื่องอ่อนไหว โยนอนุ กก.ดูแลเนื้อหาตรวจสอบก่อนเสนอบอร์ดใหม่ 14 ม.ค. ด้านมือดีแฮ็กเว็บช่อง 3 โพสต์ "เหนือเมฆข้าอยู่ไหน" ส.ว.จี้ ป.ป.ช.-กรรมการสิทธิฯ ผู้ตรวจการแผ่นดินเข้าตรวจสอบ "อ.จุฬาฯ" ปลุกกระแสบอยคอตไม่ดู ไม่ซื้อ ไม่ไลค์ โพลชี้ ปชช.เชื่อการเมืองโยงเบื้องหลัง สื่อนอกร่วมเสนอข่าวอื้อ 
    ยังคงไม่มีความเคลื่อนไหวหรือความชัดเจนจากสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 หรือผู้ที่เกี่ยวข้องใดๆ ออกมาชี้แจง ถึงสาเหตุการถอดละครเหนือเมฆ 2 แม้จะผ่านมา 4-5 วันแล้ว นับตั้งแต่มีการถอดละครเรื่องดังกล่าวอย่างฉับพลันจากผังรายการตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค.ที่ผ่านมา
    โดยเมื่อวันที่ 7 ธ.ค. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่องรัฐบาลสั่งแบนละครเหนือเมฆ 2 พร้อมทั้งรีบเดินออกจากวงสัมภาษณ์ของผู้สื่อข่าวที่ทางขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล อย่างรีบเร่ง
    "พอแล้วนะคะ พอแล้วนะคะ พอแล้วเนอะ (เสียงสูง) เดี๋ยวต้องไปรับแขกต่อ" 
    เมื่อผู้สื่อข่าวได้ถามอีกครั้งว่า นายกรัฐมนตรีจะไม่ชี้แจงเรื่องละครเหนือเมฆ 2 หน่อยหรือ น.ส.ยิ่งลักษณ์หันกลับมาและกล่าวเพียงว่า ไม่รู้เรื่อง พร้อมกับส่ายศีรษะและเดินเข้าไปภายในตึกไทยคู่ฟ้าทันที
    ขณะที่ น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า ตนเป็นผู้สั่งให้สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ระงับการออกอากาศละครเรื่องเหนือเมฆ 2 ว่า ไม่เคยไปสั่งการใดๆ และไม่ขอยอมรับฉายาที่ตั้งให้ตนว่าเป็นหอยม่วง ซึ่งตนไม่รู้ว่าละครเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างไร แต่มีคนโทรศัพท์มาถามถึงละครเรื่องดังกล่าวที่ระงับการออกอากาศ ตนขอย้ำว่าไม่เคยสั่งการใดๆ แม้จะเป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯ ที่ดูแล อสมท และดูแลกรมประชาสัมพันธ์ 
    ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธาน กสทช. และประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ หรือ กสท. เป็นประธานประชุมบอร์ด กสท. โดยมีการนำกรณีละครเหนือเมฆ 2 ที่ถูกระงับการออกอากาศทางช่อง 3 เข้าหารือในวาระ
    พ.อ.นทีแถลงผลประชุมว่า กรณีละครเหนือเมฆ 2 เป็นเพียงวาระจรที่เสนอเข้ามาในที่ประชุม โดยเบื้องต้นยังไม่มีการพิจารณาเรื่องดังกล่าว ที่ประชุมได้มอบหมายให้ทางอนุกรรมการด้านเนื้อหาและผังรายการไปรวบรวมข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวเนื่องกับด้านกฎหมาย เนื้อหาละคร หรือข้อมูลที่เกี่ยวข้องทุกด้าน เพื่อเสนอเข้าที่ประชุม กสท. ในวันที่ 14 ม.ค.นี้อีกครั้ง
    "การเรียกผู้บริหารทางช่อง 3 หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับละครมาให้ข้อมูลหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับคณะอนุกรรมการเป็นผู้พิจารณา ซึ่งการพิจารณาทุกครั้งข้อมูลจะต้องครบถ้วน เบื้องต้นทางคณะกรรมการ กสท.ยังไม่ทราบรายละเอียดในเรื่องดังกล่าว จึงไม่สามารถชี้แจงว่าการดำเนินการถอดละครออกออกไปนั้นผิดกฎหมาย หรือจะผิดมาตรา 37 พ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 หรือไม่ เนื่องจากเป็นเรื่องที่ค่อนข้างอ่อนไหวมาก จึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ" ประธาน กสท.กล่าว
    วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเวลา 16.50 น. ได้มีแฮ็กเกอร์ที่ใช้ชื่อว่า Unlimited Hack Team ได้เข้าไปแฮ็กเว็บไซต์หลักของช่อง 3 ที่ www.thaitv3.comด้วยการโพสต์ข้อความว่า "เหนือเมฆข้าอยู่ไหน เมื่อพลังแห่งความชั่วร้ายกำลังคืบคลานเข้ามา พวกเราจะฟันฝ่าเอาชนะมันอย่างไร" บนแบนเนอร์โปรโมตละครเรื่องดังกล่าวเป็นระยะเวลานานเกือบ 20 นาที ก่อนที่ทางเว็บจะแก้ไขด้วยการดึงแบนเนอร์ละครเรื่องคุณสามีกำมะลอมาขึ้นแทน
    ในส่วนคนบันเทิงต่างก็โพสต์ข้อความให้กำลังใจละครเหนือเมฆ 2 มากมาย เช่น "พจน์ อานนท์" ที่โพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรมว่า “เข้าใจทีมงานเหนือเมฆ 2 เลย ไม่เป็นไรให้กำลังใจพี่นก พี่อุ๋ย ละครดีมีสาระดันถูกแบนไม่ให้ฉาย หรือเข้าถึงยุคฮิตเลอร์ซะแล้ว เฮ้อ เกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย” ส่วน “ตุ๊กกี้ ชิงร้อยชิงล้าน” ระบุว่า “คนดีซะอย่าง น้องเป็นแรงใจให้ค่ะพี่” เช่นเดียวกับ “โก๊ะตี๋ อารามบอย” โพสต์ข้อความว่า “ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจครับ” เป็นต้น
    ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา มีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 เป็นประธาน ก่อนเข้าสู่วาระการประชุมได้เปิดโอกาสให้สมาชิกหารือ ทางนายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา กล่าวถึงการแบนละครเรื่องเหนือเมฆ 2 ว่า ละครเหนือเมฆ 2 ได้ถูกตัดตอนเป็นที่เรียบร้อย จะเป็นฝีมือเหนือเมฆ ใต้เมฆ หรือของใครก็ตาม แต่ในสังคมออนไลน์จำนวนแสนๆ นั้นรุมต่อต้าน ไม่เห็นด้วยกับการยุติละครเรื่องดังกล่าว โดยที่กรรมการ กสทช. ยศนายพลรายหนึ่ง ได้ระบุเหตุผลว่า เพราะผิด พ.ร.บ.กสทช. มาตรา 37 ซึ่งเกี่ยวกับการล้มล้างการปกครอง ลามก อนาจาร และความมั่นคงของรัฐ ซึ่งเท่าที่ดูเนื้อหาละครถือว่าตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง 
    นายประสารกล่าวว่า ละครเรื่องอื่นๆ มีเนื้อหาส่อความรุนแรง หรือแม้กระทั่งกรณีไร่ส้ม ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดแล้ว แต่ยังออกอากาศได้โดยไม่ถูกยับยั้ง ละครเรื่องเหนือเมฆนี้ถือเป็นสิทธิเสรีภาพที่จะก้าวพ้นไปจากความกลัว หากนำกฎหมาย กสทช.มากล่าวอ้างว่าผิดเช่นนี้เท่ากับเอาความเกรงกลัวมาข่มขู่ การละเมิดสิทธิเสรีภาพบางทีก็ทำอย่างโจ๋งครึ่ม บางทีก็ทำอย่างแนบเนียน ผู้ที่รับผิดชอบอย่างผู้บริหารช่อง 3 ยังไม่ทันได้พูดอะไร แต่ก็มีคนที่เป็นกระบอกเสียงออกมาพูดแทนแล้วว่า ช่อง 3 บอกว่าผิดมาตรา 37 
    นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา เสริมว่า อยากฝากไปยังนายกรัฐมนตรี ประธาน กสทช. กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ผู้ตรวจการแผ่นดิน และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี การแบนละครเรื่องนี้เป็นการทำลายจิตใจพี่น้องประชาชนหลายล้าน ในโลกออนไลน์จำนวนล้านคลิปที่ไม่พอใจ และล่าสุดโพลระบุว่าไม่เชื่อว่ารัฐบาลไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ดังนั้นคิดว่าเป็นเรื่องของไอ้โม่ง ที่กล้าทำ แต่ไม่กล้ารับ ฉะนั้นรัฐบาลต้องแสดงความจริงใจ กสทช.ต้องมีหน้าที่ตรวจสอบ 
    "ละครมี 14 ตอน แต่ถูกบีบให้เหลือ 9 ตอนผ่าน กบว.ของช่อง 3 แล้ว แต่ถูกไอ้มือมืดโทร.ทางไกลจากไหนไม่ทราบ ให้เอาเทปออกให้ละครเรื่องอื่นเข้ามาแทน ถือเป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญ สิทธิการรับรู้ของประชาชนอย่างยิ่ง แต่มันคงแสลงใจนักการเมือง หรือถึงมีมือที่สามเข้าไปแทรก ดังนั้นขอให้ผู้มีหน้าที่ รวมทั้ง ป.ป.ช. เข้าไปตรวจสอบ และเสนอให้ ป.ป.ช.ควรจะมอบรางวัลช่อสะอาดให้ผู้สร้างละคร ผู้แสดงทั้งหมด ส่วนรัฐบาลไม่ต้องแถลง เพราะไม่มีใครเชื่อ แต่ควรนำเทปที่เหลือมาตรวจและนำออกอากาศ เรื่องจะได้จบ รัฐบาลกล้าทำก็ต้องกล้ารับ อย่าทำตัวเป็นอีแอบ" ส.ว.สรรหาผู้นี้ระบุ
    มีรายงานว่า ในวันที่ 8 ม.ค. คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เตรียมจัดเวทีเสวนาเรื่อง "บอกความจริงเรื่อง ‘เหนือเมฆ/2’: สงสารช่อง 3 หรือประชาชนดี" ในเวลา 13.30-15.30 น. ห้อง 1001 อาคารมงกุฎสมมติวงศ์ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยในกำหนดการมีชื่อของนายสมรักษ์ ณรงค์วิชัย ผู้จัดการฝ่ายผลิตรายการสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 และนายนนทรีย์ นิมิบุตร ผู้กำกับภาพยนตร์ และผู้กำกับละคร “เหนือเมฆ 2” เข้าร่วมเสวนาด้วย
    น.ส.สุภาพร โพธิ์แก้ว หัวหน้าภาควิชาการสื่อสารมวลชน คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงการระงับออกอากาศละครเหนือเมฆ 2 ว่า เป็นประเด็นของสังคมไทยถึงสิ่งที่เราต้องเรียกร้องสิทธิเสรีภาพในการใช้วิจารณญาณของเราเอง ข้อเท็จจริง เราไม่รู้ว่าช่องเขาอ่อนไหวอะไร ซึ่งมันสะท้อนการทำงานของสื่อและตกอยู่ในมือที่มองไม่เห็น พลังของผู้บริโภคอ่อนล้า และผู้บริหารสื่อไม่ได้ฟังเสียงของประชาชน 
    "ระหว่างทุนหรือการเมือง ไม่รู้ว่าตัวไหนกันแน่ที่เข้ามาเกี่ยวข้องที่เขาต้องระมัดระวังตัวเอง แล้วนำมาเป็นข้ออ้างมาตรา 37 เข้ามาเกี่ยวข้อง ฉะนั้นก็แสดงว่าต่อไปมาตรานี้ใช้อ้างเรื่องอะไรก็ได้ การดูแล กำกับตัวเองในการเซ็นเซอร์ตัวเองของสื่อในลักษณะนี้มันกระทบต่อเสรีภาพในการได้ใช้วิจารณญาณรับสื่อด้วยตัวเองในสิ่งที่สนใจ และหากเดินหน้าไปอย่างนี้เรื่อยๆ สถานการณ์จะนำไปสู่ประชาชนเสียผลประโยชน์" น.ส.สุภาพรกล่าว  
    หัวหน้าภาควิชาการสื่อสารมวลชนเรียกร้องว่า เราอยากยกระดับพลังปัจเจก ปฏิเสธไม่ดู ไม่ซื้อ ไม่กดไลค์ บอยคอต แต่ก็ไม่ค่อยเชื่อพลังการปฏิเสธจะเกิดขึ้นง่ายๆ เพราะคิดว่าเรายังคงต้องดู ต้องซื้อ ต้องใช้ แต่จริงๆ แล้วพลังปฏิเสธมีความสำคัญมากในทางออก เนื่องจากการใช้วิธีการโซเชียลมีเดียก็มีพลัง แต่ก็มีเพียงชั่ววูบเท่านั้น 
    ขณะที่นายสิงห์ สิงห์ขจร อาจารย์ประจำสาขาวิชาการประชาสัมพันธ์และการสื่อสารองค์การ ประธานคณะกรรมการศูนย์สำรวจความคิดเห็นบ้านสมเด็จโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับการงดออกอากาศละครเรื่อง "เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวท" โดยใช้แบบสอบถามออนไลน์ ผ่านการส่ง Link ของแบบสอบถาม พบว่า ผู้ตอบคำถามส่วนใหญ่ร้อยละ 96 ไม่เห็นด้วยกับการงดออกอากาศละครเรื่องเหนือเมฆ 2 มีเพียงร้อยละ 2 ที่เห็นด้วย และร้อยละ 2 ที่ตอบไม่แน่ใจ 
    ที่น่าสนใจคือข้อถามที่ว่า ท่านคิดว่าการงดออกอากาศของละครเรื่อง เหนือเมฆ 2 มีส่วนเกี่ยวข้องกับรัฐบาลหรือไม่ ปรากฏว่า ร้อยละ 77 ระบุว่า มีส่วนเกี่ยวข้อง มีเพียงร้อยละ 12 ที่ระบุ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และร้อยละ 11 บอกไม่แน่ใจ เมื่อถามว่า ท่านต้องการให้ช่อง 3 ออกอากาศละครเรื่องเหนือเมฆ 2 จนจบบริบูรณ์หรือไม่ ส่วนใหญ่ร้อยละ 96% บอกต้องการ ร้อยละ 2 บอกไม่ต้องการ และอีกร้อยละ 2 บอกไม่แน่ใจ 
    ด้านสำนักข่าวต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นวอลสตรีทเจอร์นัล วอชิงตันโพสต์ เรดิโอออสเตรเลีย จาการ์ตาโพสต์ สำนักข่าวเอเอฟพี ต่างนำเสนอข่าวการยุติออกอากาศอย่างกะทันหันของ "เหนือเมฆ 2" ละครทางช่อง 3 จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเกิดขึ้นในสังคมไทย
    สื่อต่างประเทศรายหนึ่งระบุว่า หลังเหตุการณ์เกิดขึ้น ได้มีกลุ่มผู้ชมออกมาเรียกร้องให้ช่อง 3 เผยแพร่ละครเรื่องนี้จนจบ ขณะที่บางส่วนได้เสนอมาตรการคว่ำบาตรสถานีโทรทัศน์ช่องนี้.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น