วันจันทร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2556

เปิดช็อตเด็ด เหนือเมฆ 2 - “นายกฯ –รองจักร” เจรจา “หัวคิว” ตัดถนน เหตุโดนแบน?เมื่อ 7 ม.ค.56




เปิดช็อตเด็ด เหนือเมฆ 2 - “นายกฯ –รองจักร เจรจาหัวคิวตัดถนน ” “ได้เป็นนายกฯ เพราะท่อน้ำเลี้ยง” “มีอำนาจไม่ใช่ เรียกว่าโง่” – แฟนละครเชื่อเหตุโดนแบน? 


     ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า ภายหลังจากที่มีแฟนละครจำนวนมากตั้งข้อสังเกตว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้ละครเหนือเมฆ 2 ตอน มือปราบจอมขมังเวทย์ ต้องถูกระงับการออกอากาศ ก่อนกำหนด มาจากการแทรกแซงของฝ่ายทางการเมือง ที่ไม่พอใจเนื้อหาละครบางส่วน ทำให้มีแฟนละครจำนวนมาก ย้อนกลับไปตรวจสอบเนื้อหาละครที่เผยแพร่ไปแล้ว และนำฉากสำคัญบางตอน ที่มีเนื้อหาพาดพิง ความไม่ชอบมาพากลในการบริหารงานของนักการเมือง ไปเผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ พร้อมระบุว่า เป็นสาเหตุที่ทำให้ละครเรื่องนี้ถูกแบน 
     อย่างไรก็ตาม ฉากสำคัญในละคร ที่มีการนำมาเผยแพร่ และได้รับความสนใจจากคนจำนวนมาก ในขณะนี้ คือ ฉากที่รองนายกรัฐมนตรี จักร ซึ่งเป็นตัวร้ายของเรื่องรับโทรศัพท์ จากบุคคลลึกลับ พร้อมเอ่ย ว่า
     "เซ็นอนุมัติโปรเจ็กต์ให้แล้ว ขอบใจสำหรับเงินโอนเข้าบัญชีนะ” 
     จากนั้น นายกฯ เมฆา เดินเข้ามาหา รองนายกฯ จักร จึงเอ่ยขึ้นว่า “ท่านนายกฯ มาแสดงความยินดีกับโปรเจคใหม่ของผม หรือมาขอส่วนแบ่ง”
     ก่อนที่นายกฯ เมฆา จะหยิบเอกสารอนุมัติขึ้นมาฉีกทิ้ง ทำให้ รองนายกฯ จักร แสดงความไม่พอใจ พร้อมระบุว่า รู้จักให้เกียรติกันบ้าง ตำแหน่งของผมก็ไม่ได้ห่างชั้นจากของท่านนักหรอก”
     ก่อนที่นายกฯ เมฆา จะโต้ตอบกลับไปว่า " คนโกงชาติ ไม่สมควรที่จะได้รับเกียรติ ใดใดทั้งสิ้น !! ฉันจะไม่ให้ใครหน้าไหนมาแสวงหาผลประโยชน์จากเงินภาษีของประชาชน”
     รองนายกฯ จักร ได้ตอบไปว่า "ซีเรียสไปหรือเปล่า ผมอนุมัติโครงการทำถนนเพื่อสร้างความสุขให้กับประชาชนของท่าน"
     นายกฯ เมฆา ตอบอย่างไม่พอใจว่า "ความสุขที่ได้จากการตัดถนนแปดเลนเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ ฆ่าสัตว์ป่าฆ่าสิ่งแวดล้อม มีแต่มนุษย์สมองฝ่อกว่าสัตว์ เท่านั้นที่จะคิดได้อย่างนั้น"
     รองนายกฯ จักร ตอบว่า "ลืมไปหรือเปล่า ว่าท่าน มายืนอยู่ที่จุดนี้ได้เพราะการสนับสนุนของใคร"
     นายกฯ เมฆา ระบุว่า "จะให้เงินสนับสนุนพรรคสักเท่าไหร่ ฉันไม่สนใจหรอก เพราะฉันไม่เคยเอาเงินบาปมาใช้"
     รองนายกฯ จักร ตอบว่า” อุดมการณ์สูงส่งจริงๆ แต่อย่าลืมนะว่าต้นไม้ใหญ่ มันจะอยู่ได้ก็ต้องมีท่อน้ำเลี้ยงที่ใหญ่และแข็งแรง 
     นายกฯ เมฆา ระบุว่า “แล้วรู้ไหมว่าท่อน้ำเลี้ยงของ ดร.เมฆา คืออะไร ...ความ ศรัทธาของประชาชน ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อความสุขของประชาชน" 
     รองนายกฯ จักร ตอบด้วยรอยยิ้มว่า “โง่สิ้นดี” ก่อนจะย้ำว่า "มีอำนาจแต่ไม่ใช่อำนาจ ไม่ให้เรียกว่าโง่จะเรียกอะไร" 
     นายกฯ เมฆา ตอบว่า เรียกว่า "คนดีซิ... ถ้ายังไม่รู้จักความหมายคำว่าคน ความดี ศีลธรรม คุณธรรม อย่าเล่นการเมือง เพราะมันจะทำให้สภาสกปรก ประเทศชาติล่มจม.." 

 
   (ชมฉากละครนี้ ฉบับเต็มได้ใน http://www.youtube.com/watch?v=ONevt2EqStU)

@@ ช่อง 3 แจงสาเหตุระงับ เหนือเมฆ 2 ส่อผิดม.37
     ขณะที่ เว็ปไซต์ ไทยรัฐ ออนไลน์ ได้เผยแพร่บทสัมภาษณ์ พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ในฐานะประธานอนุกรรมการกำกับเนื้อหา ที่ให้ความเห็นถึงกรณีที่ช่อง 3 ระงับการออกอากาศละครเรื่อง เหนือเมฆ 2 ว่า กรณีของละครเหนือเมฆ 2 ช่อง 3 คงตรวจสอบแล้วว่าอาจผิดตามมาตรา 37 จึงสั่งให้หยุดการออกอากาศ ซึ่งเป็นการกำกับดูแลตัวเองของช่อง 3
     สำหรับ มาตรา 37 ตามพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 ระบุว่า ห้ามไม่ให้ออกอากาศเนื้อหารายการที่มีลักษณะล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือกระทำซึ่งเข้าลักษณะลามกอนาจารหรือมีผลกระทบต่อการให้เกิดความเสื่อมทรามทางจิตใจหรือสุขภาพของประชาชนอย่างร้ายแรง
     ส่วนกรณีที่กระแสสังคมมองว่าละครเรื่องเหนือเมฆ 2 เป็นละครน้ำดี ที่ไม่มีการใช้คำหยาบ หรือตบตี แต่กลับโดนแบน พล.ท.พีระพงษ์ กล่าวว่า ในเมื่อไม่เห็นเนื้อหาจริงๆ ก็พูดไม่ได้ ซึ่งการถ่ายทอดละคร หรือศิลปะก็ต้องดูด้วยว่าไปกระทบกับใคร อาจเข้าข่ายละเมิด เรื่องที่ว่าดี เป็นเรื่องของอัตวิสัย ถ้าดีแล้วเข้าข่ายหมิ่นประมาท ช่อง 3 อาจมองว่าตัดออกดีกว่า ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงว่าผลกระทบจะก่อให้เกิดความขัดแย้งไหม
     “ส่วนตัวได้คุยกับผู้บริหารระดับสูงของช่อง 3 แล้ว เขาบอกว่าเนื้อหาของละครขัดมาตรา 37 จึงต้องงดออกอากาศ แต่ไม่ได้บอกว่าเนื้อหาตรงส่วนไหนขัดกับมาตราดังกล่าว ซึ่งในส่วนของละครเหนือเมฆ 2 ถ้ายังไม่ได้ออกอากาศ หรือนำไปเผยแพร่ในสื่อ กสทช. ก็ไม่มีระบบที่จะไปขอตรวจเนื้อหา และการที่ช่อง 3 งดออกอากาศละครเหนือเมฆ 2 คิดว่าช่อง 3 คงพิจารณาดีแล้วว่าตัวเนื้อหาละครไม่เหมาะสม ซึ่งการที่จะให้ละครออกอากาศหรือไม่ก็แล้วแต่ความเห็นของช่อง 3 และช่อง 3 ก็มีคณะกรรมการที่ดูแลเรื่องเนื้อหาอยู่แล้ว”ประธานอนุกรรมการกำกับเนื้อหา กล่าว
      พล.ท.พีระพงษ์ กล่าวอีกว่า กสทช. มีอำนาจหน้าที่ถาม และขอให้ ช่อง 3 ชี้แจง สาเหตุของการงดออกอากาศละครเหนือเมฆ 2 มาที่ กสทช. กรณีที่มีประชาชนที่เดือดร้อนจากการไม่ได้รับชมร้องเรียนเข้ามา ซึ่งการเปลี่ยนเรื่องละครที่จะออกอากาศ ช่อง 3 ได้แจ้งมาที่ กสทช.แล้ว เป็นลักษณะของการเปลี่ยนเรื่องละครไม่ได้เป็นการเปลี่ยนแปลงลักษณะรายการ ขณะที่ส่วนตัวมีความคิดเห็นว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการปรับตัวของสื่อ ซึ่งเกิดจากระบบตรวจสอบที่เคยผิดพลาดกรณีไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ จึงทำให้ช่อง 3 มีการตรวจสอบที่เข้มงวด และตรวจสอบก่อนที่จะผิดพลาดอีก ซึ่งสิ่งที่ต้องทำของช่อง 3 ขณะนี้คือ ต้องชี้แจงกับประชาชนว่าทำไมต้องจบละครเรื่องเหนือเมฆ 2 เร็ว
      “มีคำถามว่า ความขัดแย้งทางการเมืองเป็นปัญหาที่ตัวบุคคล หรือเป็นปัญหาที่โครงสร้าง ถ้าปัญหาเกิดจากส่วนไหนก็ต้องไปแก้ไขที่ส่วนนั้น ซึ่งสังคมต้องมองข้ามเรื่องเหล่านี้ไปให้ได้ โดยส่วนตัวเห็นว่าประเทศไทยควรทำละครที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการเมือง แต่ต้องเน้นให้คนเข้าใจที่ข้อเท็จจริง ไม่ใช่เน้นตัวบุคคล แต่ให้ชี้ไปที่โครงสร้างซึ่งปัญหาในเรื่องของโครงสร้างเป็นสิ่งที่เราต้องไปจับจ้อง และกรณีเหนือเมฆ 2 ที่งดออกอากาศ รัฐบาลไม่มีสิทธิ์มาแทรกแซง และไม่เห็นว่ารัฐบาลเข้าไปยุ่งหรือกำกับสื่อแต่อย่างใด”
@@ “ธาริต” ยัน “ดีเอสไอ” ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง –คดีสัมปทานช่อง 3 แค่สอบปากคำ
      ด้านนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ออกมาปฏิเสธว่า ดีเอสไอไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ส่วนที่มีการเชื่อมโยงประเด็นกรณีที่ชมรมนักกฎหมายพิทักษ์ผลประโยชน์รัฐ เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนให้ดีเอสไอตรวจสอบการต่อสัญญาร่วมดำเนินกิจการส่งโทรทัศน์สีระหว่างบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กับบริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด หรือช่อง 3 ออกไปอีก 10 ปี นั้น ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน เพราะกรณีดังกล่าว ดีเอสไอยังไม่ได้เริ่มต้นสอบสวน มีเพียงการสอบปากคำฝ่ายผู้ร้องไว้เท่านั้น และไม่ได้รับเป็นคดีพิเศษแต่ย่างใด
      ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้นายธานินทร์ เปรมปรีดิ์ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการทุจริต ตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นแล้ว และล่าสุดเพิ่งออกหนังสือเชิญนายสุรพล นิติไกรพจน์ อดีตประธานบอร์ด อสมท และผู้บริหารช่อง 3 เข้าชี้แจงข้อมูล ในวันที่ 16 มกราคม 2556 นี้ จึงถือว่า ดีเอสไอยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ กับกรณีดังกล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น